เจาะลึกอีสานยุคใหม่ ศักยภาพที่ซ่อนเร้นและโอกาสในยุคดิจิทัล

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย หรือภาคอีสาน มีประชากรถึงหนึ่งในสามของประเทศ (21.6 ล้านคน จากทั้งหมด 66.0 ล้านคน) แต่กลับมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพียงหนึ่งในสิบ (1.8 ล้านล้านบาท จากทั้งหมด 18 ล้านล้านบาท) ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 99,271 บาทต่อปี ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศถึงสามเท่า (256,345 บาทต่อปี) อย่างไรก็ตาม แม้สถิติเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงความท้าทาย แต่เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้คือ ศักยภาพอันมหาศาลและโอกาสใหม่ ๆ ที่กำลังเบ่งบาน

คณะผู้บริหารทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดยคุณซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าร่วมการสนทนากับ ส่วนเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายกเทศมนตรีเมืองขอนแก่น ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 (BOI) สำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขอนแก่น ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประธานหอการค้ากลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง รวมถึง ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ในหัวข้อ “ปลุกพลังอีสาน โอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมในยุคดิจิทัล” ร่วมกับคณะผู้แทนหน่วยงานราชการและเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายการบริหารเศรษฐกิจและสังคมในภาคอีสาน และจังหวัดขอนแก่น

นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ ทรูเข้าใจถึงศักยภาพ จุดแข็งและโอกาสของภาคอีสานอย่างรอบด้าน ความตั้งใจในการพัฒนาเมืองภายใต้ ‘ขอนแก่นโมเดล’ โดยเฉพาะด้าน Smart City และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ที่ทรูสามารถสนับสนุนการผสานเทคโนโลยีเพื่อสร้างระบบนิเวศเมืองอัจฉริยะที่ครบวงจร โดยมุ่งเน้นที่การแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวขอนแก่นอย่างยั่งยืน รวมถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME และธุรกิจครอบครัวเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นเติบโตและแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล”

จุดแข็งและโอกาสของภาคอีสานที่มีอย่างรอบด้าน

1. ครัวของประเทศไทย: เกษตรกรรมที่พร้อมก้าวสู่ยุค AI

ภาคอีสานมีพื้นที่เพาะปลูกถึง 45.3% ของทั้งประเทศ และเป็นแหล่งผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้าวหอมมะลิ (81%) มันสำปะหลัง (56.7%) และอ้อย (50.1%) แต่ยังมีพื้นที่ชลประทานเพียง 12% ซึ่งเป็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การนำ AI และ IoT มาใช้ในการวางแผนเพาะปลูก การจัดการน้ำ และการเชื่อมโยงเกษตรกรกับตลาดโดยตรง จะช่วยเพิ่มผลผลิตและรายได้ให้กับเกษตรกรได้

2. ศูนย์กลางสุขภาพ: การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและบริการทางการแพทย์

ภาคอีสานผลิตบัณฑิตแพทย์มากที่สุดในประเทศ โดยมีสถาบันการศึกษาแพทย์ชั้นนำหลายแห่ง รวมถึงการขยายตัวของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ทำให้ภาคอีสานกลายเป็นศูนย์กลางการแพทย์ที่สำคัญ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) จากกลุ่มประเทศ CLMV ที่เพิ่มขึ้นถึง 15% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้สูงอายุชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตระยะยาว

3. การท่องเที่ยว 3 มิติ: กีฬา สุขภาพ และความคิดสร้างสรรค์

ภาคอีสานไม่ได้มีดีแค่วัฒนธรรมและประเพณี แต่ยังเป็นจุดหมายใหม่ของการท่องเที่ยว:

• การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism): ด้วยสนามกีฬามาตรฐานระดับโลก เช่น ที่นครราชสีมา ที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ
• การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism): ด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และเป็นแหล่งโอโซนบริสุทธิ์
• การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism): ด้วยเอกลักษณ์ท้องถิ่น, ภูมิปัญญา, และเทศกาลที่สนุกสนาน เช่น ผีตาโขนและแห่เทียนพรรษา ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในภาคอีสานเพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 2562 เป็น 9% ในปี 2567

แรงขับเคลื่อนจากความร่วมมือ: ‘ขอนแก่นโมเดล‘

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การพัฒนาในภาคอีสานเป็นไปอย่างก้าวกระโดดคือ “ความร่วมมือ” ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ Khon Kaen Think Tank (KKTT) ซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ระดมทุนและลงมือทำโครงการพัฒนาเมืองด้วยตนเอง เช่น โครงการรถบัสในเมืองขอนแก่น และการผลักดันให้เมืองขอนแก่นเป็น Learning City ที่ได้รับการยอมรับจาก UNESCO

ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ, ภาคเอกชน, และสถาบันการศึกษา หรือที่เรียกว่า “ขอนแก่นโมเดล” แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้มาจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการลงมือทำของคนในพื้นที่ที่ต้องการเห็นบ้านเกิดของตนเติบโต

อีสานไม่ใช่แค่ ‘หลังบ้าน‘ แต่คือ ‘ประตูบานใหม่‘

ภาคอีสานไม่ใช่แค่แหล่งผลิตทางการเกษตรหรือภูมิภาคที่มี GDP ต่ำอีกต่อไป แต่คือภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมี เทคโนโลยี นวัตกรรม และความร่วมมือ เป็นเครื่องมือสำคัญ

ปลุกพลังอีสาน โอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมในยุคดิจิทัล

ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดย นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม พร้อมด้วยนายมนัสส์ มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านประสบการณ์ลูกค้าและธุรกิจรีเทล นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล และดร. ธีรเดช ดำรงพลาสิทธิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร นำทีมผู้บริหาร แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในภาคอีสานอย่างใกล้ชิด จากการสนทนาเชิงลึกภายใต้หัวข้อ “ปลุกพลังอีสาน โอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมในยุคดิจิทัล”

ร่วมกับคณะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำโดยนายสักก์สีห์ พลสันติกุลผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขอนแก่น พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย นายกเทศมนตรีเมืองขอนแก่น นายจักรกฤษณ์ ศิริพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น นางวรรณนิภา พิภพไชยาสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 (BOI) นายปุญญวิชญ์ เศรษฐสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการส่วนเศรษฐกิจการเงินภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้ากลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง นายกังวาน เหล่าวิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง รศ.ดร.รวี หาญเผชิญ ที่ปรึกษาอาวุโสบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด