หากมองย้อนประวัติศาสตร์ไทย ผู้หญิงเพิ่งเข้ามามีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง และนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าของรัฐบาล ทำให้เกิดความต้องการแรงงานเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้ “สตรี” กลายเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม จากงานวิจัยโดยธนาคารโลกพบว่า 24% ของผู้หญิงทั่วโลกตัดสินใจ “ออกจากงาน” ภายในปีแรกหลังจากให้กำเนิดลูก และอีก 17% ในระยะเวลา 5 ปีถัดมา การตัดสินใจทิ้งความฝัน ทำหน้าที่แม่อย่างเต็มกำลัง ส่งผลให้จำนวนและสัดส่วนผู้หญิงในระดับบริหารองค์กรน้อยกว่าชายอย่างเห็นได้ชัด
ปัจจัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า “โทษทัณฑ์จากความเป็นแม่” (motherhood earnings penalty) หมายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากการให้กำเนิดลูก ทั้งการกีดกันเข้าทำงานและเลือกปฏิบัติในสถานที่ทำงาน ความคาดหวังทางสังคมต่อหน้าที่แม่ รวมถึงผลกระทบทางร่างกายจากการคลอดลูก
เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2568 #IWD2025 TrueBlog พาทุกท่านมาพูดคุยกับ “บุรณิศ มารัญพาล มอสควา” ผู้บริหารหญิงคนเก่ง Head of Regional Management แห่งทรู คอร์ปอเรชั่น และซูเปอร์มัม ที่ช่วงเวลาหนึ่ง เธอเคยคิดตัดสินใจหันหลังให้ความก้าวหน้าในอาชีพ เพื่อเป็นคุณแม่ฟูลไทม์เสียแล้ว
ผู้หญิงสายเทค กรุยทางสตาร์ทอัพไทย
บุรณิศ หญิงเก่งสายเทคคนนี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้มาก่อนกาล บุกป่าผ่าดงวงการสตาร์ทอัพไทยตั้งแต่ยุคตั้งไข่ สวมหมวกแม่ทัพหญิงพาพี่ใหญ่ของวงการอย่าง Groupon เว็บรวมดีลเด็ดมามาแรงแห่งยุค Grab ยุคบุกเบิกสมัยที่ให้บริการเฉพาะเรียกรถ อีคอมเมิร์ซผู้ปฏิวัติวงการค้าปลีกไทยอย่าง Lazada ก่อนที่จะมาแลนดิ้งในวงการโทรคมนาคมกับ dtac ในปี 2562 อาศัยประสบการณ์ในแวดวง ‘เทคสตาร์ทอัพ’ มาต่อยอดสร้างการเปลี่ยนแปลงแก่วงการโทรคมนาคม ด้วยการวางรากฐานช่องทางการขายผ่าน ‘ออนไลน์’ ก่อนที่ eCommerce กำลังจะเบ่งบานดังเช่นปัจจุบัน ในตำแหน่ง Head of Sales Partner and Hybrid Channels
เป็นเวลาเกือบ 6 ปีบนเส้นทางโทรคมนาคม ภายหลังการซินเนอร์ยี่รวมพลังภายใต้ ‘ทรู คอร์ป’ บุรณิศก้าวสู่ความท้าทายใหม่ในตำแหน่ง Head of Regional Management รับผิดชอบดูแลด้านงานขายทั้งหมดในเขตพื้นที่ตะวันออก 7 จังหวัด ครอบคลุมสมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก ขยายขอบเขตเนื้องาน จาก ‘สรรค์สร้าง’ สู่ ‘ดูแล’ ในรูปแบบ End-to-End โดยมี Lifetime Value เป็นหัวใจ
“พี่มองว่า ไม่ว่าจะที่ไหน ตลาดใด ก็ล้วนมี ‘โอกาส’ ในนั้ืนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือในตลาดที่อิ่มตัวอย่างประเทศไทย ก็ล้วนมีโอกาสทั้งสิ้น เช่นเดียวกับภาคตะวันออกที่พี่ดูแลก็มีศักยภาพในการเติบโตสูง จาก EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) เราจำเป็นต้องมองเซ็กเม้นต์ลูกค้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม expat กลุ่มพนักงานโรงงาน กลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มคนเกษียณ ฯลฯ” เธออธิบายเนื้องานในปัจจุบัน
ความมั่นใจ: พลังแห่งศักยภาพผู้หญิง
บุรณิศ เกิดและเติบโตที่กรุงเทพฯ ร่ำเรียนจนถึงระดับปริญญาตรี จากน้ันจึงโบยบินไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ The University of Texas at Dallas ในสาขา Information Systems (IS) ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นศาสตร์ใหม่ ยังไม่ได้รับความสนใจจากเด็กในยุคนั้นมากนัก แต่ด้วยอุปนิสัยที่ชอบคิดนอกกรอบ สอดรับกับเนื้อหา IS ที่มีความเป็นสหวิทยาการสูง บูรณาการศาสตร์ต่างๆ เข้าด้วยกัน จัดเป็นโลกทัศน์แบบใหม่ทางวิชาการ
“การใช้ชีวิตอยู่ต่างบ้านต่างเมืองตัวคนเดียว แถมเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก ถ้าเป็นครอบครัวหัวโบราณ พี่คงไม่ได้ไปแน่ๆ แต่เพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกได้รับโอกาสทางการศึกษาที่้ดีที่สุด และที่สำคัญ ท่านต้องมีความมั่นใจในตัวพี่เช่นกัน มันจึงเสริมพลังความมั่นใจในตัวเอง มั่นใจว่าจะคว้าใบปริญญามาให้ได้” บุรณิศ กล่าวและย้ำว่า เมื่อหันมามองตัวเองในวันนี้กับบทบาทแม่ เธอสารภาพว่าเธอก็ยังไม่แน่ใจว่า เธอจะเข้มแข็ง มีความมั่นใจเหมือนคุณแม่ในวันนั้นหรือไม่ คุณแม่จึงเปรียบเสมือน Role Model ของผู้เป็นแม่ให้กับเธอ
ในวัยเด็ก บุรณิศอาจยังไม่เห็นภาพหรือเป้าหมายที่ชัดเจนของตัวเองนัก ทว่า….สิ่งที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้เธอผลักดันจนเป็นเธอในทุกวันนี้ นั่นคือ “ความมั่นใจ” ที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจากการปรับตัวให้อยู่รอดตามแต่ละสถานการณ์ การเผชิญความกดดัน ปัญหา และความท้าทาย ล้วนมีบทบาทในการปลดล็อกศักยภาพในตัวเธอ
อย่างไรก็ตาม หากมองผ่านเลนส์วัฒนธรรมไทยแบบดั้งเดิม ความมั่นใจก็อาจถูกตีความในทางลบ ตัวอย่างเช่น การแสดงความเห็นในที่ทำงาน ที่อาจถูกมองเป็นการโต้แย้ง ไม่เคารพนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ ซึ่งในฐานะหัวหน้างาน เธอพยายามส่งเสริมและกระตุ้นให้น้องๆ ในทีมทุกคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง
ภายใน 2 ปี เธอก็คว้าใบปริญญาได้สำเร็จ แต่แล้วเธอก็จับพลัดจับผลู ได้รับข้อเสนอทำงานต่อทันที บ่มเพาะทักษะ สั่งสมประสบการณ์ระดับอินเตอร์รวมทั้งสิ้น 10 ปี การทำงานภายใต้ความหลากหลายของผู้คนและองค์กร ช่วยเธอเปิดโลกทัศน์แห่งความคิด วิธีการทำงาน บ่อเกิดความเชื่อมั่นที่เกิด mindset เปิดใจและถกเถียงกันอย่างเป็นมืออาชีพ
เร่งบ้าง ผ่อนบ้าง พิชิตจุดหมายอย่างมีกลยุทธ์
ภายหลังให้กำเนิดลูกที่สหรัฐอเมริกา บุรณิศตัดสินใจย้ายถิ่นฐานกลับเมืองไทย พร้อมกับ “ผ่อน” เครื่องยนต์แห่งการทำงาน เพื่อให้มีโอกาสใช้เวลากับลูกให้ได้มากที่สุดจนกว่าลูกถึงเกณฑ์เข้าโรงเรียนอนุบาล อย่างไรก็ตาม ในระยะเปลี่ยนผ่านนั้น เธอไม่ได้ทิ้งเป้าหมายของชีวิตอย่างสิ้นเชิง เธอยังคงรับงานพาร์ทไทม์ควบคู่ไปกับการเอาใจใส่ลูกน้อยในช่วงปฐมวัย
การมีลูก ถือเป็นอีกจุดหมายที่สำคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย แต่ด้วยภาระความเป็นแม่ที่ธรรมชาติจัดสรรให้ สายใยแแห่งความรักและความผูกพันระหว่างแม่ลูก ก็ทำให้ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยตัดสินใจ “ละทิ้ง” ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน “โอบรับ” ภาระหน้าที่คุณแม่เต็มตัว ซึ่งสิ่งนั้นก็เคยแว้บเข้ามาในความคิดของเธอเช่นกัน
“นอกจากความเหนื่อยล้าระหว่างทางจากหน้าที่แม่แล้ว ผู้หญิงเองก็อยากจะทุ่มเท ให้เวลากับสิ่งที่สำคัญที่สุดของเธอ นั่นคือ ‘ลูก’ แต่เมื่อถึงจุดนั้นจริงๆ โชคดีว่า พี่มี support system ที่ดีอย่าง ‘คุณสามี’ ที่มาช่วยบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยลงไป เขาทำให้รู้ว่าเราไม่ได้ทำหน้าที่แม่อยู่คนเดียว เขาอยู่ข้างๆ เราทำหน้าที่ดูแลลูกไปพร้อมๆ กับเรา ทุกคนในครอบครัวทั้งคุณพ่อคุณแม่ต่างมีบทบาทไม่ทางใดทางหนึ่งในการเป็น support system ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของครอบครัวขยายของสังคมไทย ” บุรณิศ เล่า
ขณะที่ลูกน้อยกำลังเติบใหญ่ ‘ความมั่นใจ’ ของบุรณิศก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ในจังหวะเดียวกัน ก็มีผู้หยิบยื่น “โอกาส” ให้เธอได้กลับสู่สนามแห่งการทำงานอีกครั้งที่ Groupon Thailand ในตำแหน่ง Head of Human Resources เติบโตเรื่อยมาสู่ผู้บริหารระดับสูงกับพันธกิจพิชิตเป้า Telco-Tech Company ทำให้เธอต้องเดินทางดูแลต่างจังหวัดอย่างเนืองๆ เฉกเช่นเดียวกับลูกชายที่กำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ถึงกระนั้น ด้วย support system ที่แข็งแกร่งและแนวทาง balanced caregiving เมื่อบุรณิศเดินสายสำรวจตลาด ดูแลลูกค้า ‘สามี’ จะเข้ามาทำหน้าที่ ‘สานสายใย’ แทนทันที โดยจะทิ้งกิจกรรมอื่นไว้ข้างหลัง
Support system เติมเต็มพลังความเป็นแม่
เช่นเดียวกัน support system นี้ ไม่ได้มีเพียงสามีเท่านั้น แต่ ‘ลูก’ ก็ได้ทำหน้าที่เป็น support system ของผู้เป็นแม่ โดยเฉพาะด้านการทำงาน
“ทุกครั้งที่ต้องเดินทางไปทำงาน พี่อยากให้ลูกได้ภูมิใจกับสิ่งที่แม่ทำ ฉะนั้น ลูกจึงเป็นหนึ่งแรงใจ ประกอบสร้างเป็น support system ที่แข็งแกร่งให้กับแม่ เป็นพลังให้แม่พิชิตฝันให้ลูกได้ภูมิใจ เช่นเดียวกัน เมื่อลูกต้องการกำลังใจ เราก็จะสละเวลาไปนั่งเชียร์ข้างสนามให้เขารู้ว่ามีเราเป็น support system ให้กับเขาเช่นกัน” เธอ กล่าว
ด้วยบริบทและข้อจำกัดที่แตกต่างกันของแต่ละครอบครัวและสังคม ทำให้ support system ของผู้เป็นแม่อาจมีหน้าตาแตกต่างกันไป บ้างเป็นเพื่อนสนิท บ้างพี่น้อง บ้างก็เป็นพ่อแม่ แต่เธอเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า คุณแม่ทุกคนล้วนมี support system ในรูปแบบของตัวเอง นอกจากนั้น เธอยังเห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายสิทธิลาคลอด 6 เดือนของแม่ รวมถึงสิทธิลาคลอดของพ่อ ที่จะช่วยลดภาระและความเหนื่อยล้าของแม่ในระยะแรกหลังคลอดลูกได้มาก
“จงอย่าเผชิญปัญหาอยู่เพียงลำพัง และอย่าคิดว่า การขอ support system คือความอ่อนแอของตัวเอง” บุรณิศ ย้ำ
เธอ เสริมว่า ในมุมหนึ่ง การมีลูกก็กลายเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งความฝันส่วนตัว แต่อีกมุมหนึ่ง การมีลูก คือ springboard ที่ทำให้คนเป็นแม่มีพลังที่จะคว้าฝันให้สำเร็จ ได้ลูกได้ภูมิใจ เพราะลูกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต นอกจากความก้าวหน้าในอาชีพแล้ว ผู้หญิงควรดูแลตัวเองให้ดูดี มีความสุขทั้งกายและใจเช่นกัน อย่านำตัวเองไปอยู่ที่ลูกทั้งหมด เพราะเมื่อวันหนึ่งเขาก็ต้องโตไปมีเส้นทางชีวิตของเขา
“วันสตรีสากล พี่มองว่าไม่ได้เป็นเรื่องของผู้หญิงเพียงอย่างเดียว ผู้ชายในฐานะคุณพ่อของลูก สามีของภรรยา พี่ชายของน้องสาว ทุกคนสามารถร่วมมือกันทำให้ support system แข็งแรง สร้างสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่ง ให้สังคมไทยก้าวหน้าไปด้วยกัน Happy International Women’s Day ค่ะ”